ประวัติ เรย์

เรย์ มิสเตริโอ จูเนียร์ (อังกฤษ: Rey Mysterio Jr.) มีชื่อจริงว่า ออสการ์ เกอติเอเร่ส์ (อังกฤษ: Oscar Gutierrez) เกิดวันที่ 11 ธันวาคม ค.ศ. 1974 ที่ ซานดีเอโก, แคลิฟอร์เนีย, สหรัฐอเมริกา ปัจจุบันได้เซ็นสัญญาปล้ำให้กับสมาคม เวิลด์เรสต์ลิงเอ็นเตอร์เทนเมนต์ หรือ WWE ในค่ายสังกัด SmackDown
ประวัติในวงการมวยปล้ำ

เรย์ มิสเตริโอ เป็นนักมวยปล้ำอาชีพ ชาวอเมริกัน เชื้อสาย เม็กซิกัน เขาเป็นนักมวยปล้ำตัวเล็กที่สามารถเอาชนะนักมวยปล้ำที่ตัวใหญ่กว่าได้ด้วยท่าลีลาการปล้ำสไตล์เม็กซิกัน มีท่าทางผาดโผนได้หลายรูปแบบ ทำเอาคนดูลุ้นไปตามๆกัน
เขาพูด ภาษาอังกฤษ และ ภาษาสเปน ได้ เพลงเปิดตัวจึงเป็น ภาษาสเปน เป็นส่วนใหญ่ (บางเวอร์ชันเป็นภาษาอังกฤษแบบเม็กซิกัน)
ท่าไม้ตาย : 619 (ซิก-วัน-ไนน์ ตั้งตามรหัสพื้นที่ของเมือง ซานดีเอโก), West Coast Pop
บ้านเกิด : ซานดีเอโก, รัฐแคลิฟอร์เนีย
เชื้อสาย : เม็กซิกัน
ภาษา : อังกฤษ, สเปน
น้ำหนัก : 165 ปอนด์
ส่วนสูง : 168 เซนติเมตร (5 ฟุต 6 นิ้ว)
[แก้]เวิลด์เรสต์ลิงเอ็นเตอร์เทนเมนต์ (2002 - ปัจจุบัน)
เรย์ มิสเตริโอ จูเนียร์ ได้ปล้ำใน WWE ครั้งแรก เมื่อปี 2002 กับ ชาโว่ เกอร์เรโร่ เขาก็เอาชนะได้สำเร็จ
[แก้]ปี 2003
เรย์ ได้มีโอกาสชิง แชมป์ครูย์เซอร์เวท จาก แมทท์ ฮาร์ดี อยู่หลายครั้ง โดยผ่านด่านทดสอบของ แมทท์ ฮาร์ดี คือ การที่จะต้องปล้ำแบบ 2 รุม 1 โดยมี แชนอน มัวร์ กับ แครช ฮอลลี่ ลูกน้องคู่ V1 ของ แมทท์ ฮาร์ดี แต่ เรย์ ก็เอาชนะได้ ทั้งที่บาดเจ็บเส้นเอ็นพลิกที่ต้นขา
[แก้]ปี 2005
เรย์ ได้คว้า แชมป์ WWE Tag Team คู่กับ เอ็ดดี้ เกอร์เรโร่ แต่ไม่นานก็มาแตกทีมกัน และได้กลายเป็นศัตรูกัน ซึ่งได้ปลํ้ากันอยู่หลายต่อหลายแมตซ์ เรย์ ก็สามารถเอาชนะไปได้ทุกครั้ง เมื่อ เอ็ดดี้ เกอร์เรโร่ ไม่มีหนทางที่จะชนะ จึงออกมาแฉว่า ลูกชายของ เรย์ คือ โดมินิค ว่าไม่ใช่ลูกของ เรย์ แต่เป็นลูกของ เอ็ดดี้ เกอร์เรโร่ และได้มีเรื่องกับ เรย์ จนยาวนาน จน เรย์ สามารถเอาชนะ เอ็ดดี้ เกอร์เรโร่ ไปได้ ในแมตช์การปลํ้าชิงการเป็นผู้ปกครองของ โดมินิค ในศึก Summerslam 2005 ซึ่ง เรย์ เป็นฝ่ายเอาชนะไปได้อีกครั้ง ก่อนที่จะแพ้ เอ็ดดี้ เกอร์เรโร่ เป็นครั้งแรกในแมตซ์กรงเหล็ก ในศึก SmackDown เนื่องจาก เรย์ ไม่สามารถใช้ท่าไม้ตาย 619 ได้ เพราะติดกรงเหล็ก
[แก้]ปี 2006


เรย์ มิสเตริโอ กับ แชมป์โลกเฮฟวี่เวท ในปี 2006
เขาได้เป็นความหวังของตระกูล เกอร์เรโร่ ที่จะได้เป็นแชมป์คนต่อไป เนื่องจาก เรย์ เป็นนักมวยปล้ำ ชาว อเมริกัน เชื้อสาย เม็กซิกัน ที่ยัง มีผลงานที่ดีอยู่ เขาจึงเอาชนะ ทริปเปิล เอช และ แรนดี ออร์ตัน ในศึก รอยัลรัมเบิล 2006 ได้ไปท้าชิง แชมป์โลกเฮฟวี่เวท ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 22 และสามารถเอาชนะ เคิร์ต แองเกิล คว้าแชมป์โลกครั้งแรกได้สำเร็จ
ในศึก เดอะเกรทอเมริกันแบช 2006 เขาก็เสียแชมป์ให้กับ บูเกอร์ ที ในที่สุด จากการหักหลังของ ชาโว่ เกอร์เรโร่ และในเดือนตุลาคม ทั้งคู่ได้เจอกันในแมตซ์ I Quit Match ผลปรากฏว่า ชาโว่ เกอร์เรโร่ ได้จับ เรย์ แขวนไว้กับเสาเหล็ก และใช้เก้าอี้ตีเข่า เรย์ จน เรย์ ต้องตะโกนยอมแพ้ไปในที่สุด หลังจากนั้น เรย์ ก็ต้องพักการปล้ำไปนานเกือบปีจากอาการบาดเจ็บที่หัวเข่า แต่สุดท้าย เรย์ ก็กลับมาแก้แค้นได้สำเร็จด้วยการเอาชนะ ชาโว่ เกอร์เรโร่ ได้อีกครั้ง ในศึก Summerslam 2007
[แก้]ปี 2008
เรย์ มิสเตริโอ ได้ท้าชิง แชมป์โลกเฮฟวี่เวท จาก เอดจ์ ถึง 2 ครั้งเลยทีเดียว เนื่องจาก วิกกี้ เกอร์เรโร่ พยายามที่จะรบกวนการปล้ำอยู่เสมอ ครั้งที่สอง เป็นเพราะการช่วยเหลือของ เคิร์ท ฮอว์กินส์และแซค ไรเดอร์ แถมมีอารการปวดกล้ามเนื้อ ไบเส็บด้วย ทำให้มีอุปสรรคในการปล้ำมากขึ้นซ้ำร้าย บิ๊กโชว์ ได้ออกมาทำร้ายอีก จนทำให้ เรย์ ต้องเข้าโรงพยาบาล เพื่อทำการรักษาเป็นการด่วน ในช่วงเดือน มิถุนายน เรย์ ได้กลับมาอีกครั้งหลังจากรักษาแผลกล้ามเนื้อหายดีแล้ว เขาก็ถูกดราฟท์ตัว ไปสังกัดค่าย RAW ในทันที
[แก้]ปี 2009


เรย์ ในชุดของโจ๊กเกอร์ ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 25
เรย์ สามารถคว้า แชมป์อินเตอร์คอนติเนนทัล มาจาก JBL ได้สำเร็จ ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 25 โดยใช้เวลาเพียง 21 วินาที เท่านั้น ต่อมา ในเดือนพฤษภาคม เรย์ ก็ได้ถูกดราฟท์ตัวกลับมาที่ SmackDown และเสีย แชมป์อินเตอร์คอนติเนนทัล ให้กับ คริส เจอริโก้ ในศึก เอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2009) โดยถูก คริส เจอริโก้ ใช้กลโกงดึงหน้ากากของ เรย์ ออกมา และในศึก เดอะแบช (2009) เรย์ ก็สามารถเอาแชมป์คืนจาก คริส เจอริโก้ มาได้ ก่อนที่จะเสียแชมป์ให้กับ จอห์น มอร์ริสัน ในศึก SmackDown เดือนกันยายน และในศึก แบรกกิ้ง ไรท์ส (2009) เรย์ ได้ปล้ำในแมตช์ 4 เส้า ในการชิง แชมป์โลกเฮฟวี่เวท จาก ดิ อันเดอร์เทคเกอร์ ร่วมด้วย บาติสต้า และ ซีเอ็ม พังค์ ซึ่ง อันเดอร์เทคเกอร์ เป็นฝ่ายป้องกันแชมป์ไว้ได้ ทำให้ บาติสต้า โมโห จึงทำร้าย เรย์ จากนั้นก็ประกาศตัดเพื่อนกับเรย์และกลายเป็นคนเลวไปในที่สุด และในศึก เซอร์ไวเวอร์ ซีรีส์ (2009) เรย์ กับ บาติสต้า ก็ได้เจอกัน และผลปรากฏว่า บาติสต้า เป็นฝ่ายชนะ แต่หลังจากนั้น เรย์ ก็จัดการกับ บาติสต้า และเอาชนะ บาติสต้า ได้ในระยะหลัง และขัดขวางไม่ให้ บาติสต้า ได้ชิงแชมป์โลกกับคนอื่นอีกด้วย
[แก้]ปี 2010
เรย์ ได้มาเป็นศัตรูกับ ซีเอ็ม พังค์ และในศึก โอเวอร์เดอะลิมิต (2010) โดยถ้า เรย์ ชนะ ซีเอ็ม พังค์ ต้องโดนตัดผม แต่ถ้า เรย์ แพ้ เรย์ จะต้องเข้ามาอยู่กลุ่ม Straight Edge Society สุดท้าย เรย์ เอาชนะ ซีเอ็ม พังค์ ได้และตัดผมของ ซีเอ็ม พังค์ จนหัวล้านได้สำเร็จ และ เรย์ ได้เข้ารอบ ไฟเทิล โฟร์เวย์ (2010) ได้ปล้ำ 4 เส้า ในการชิง แชมป์โลกเฮฟวี่เวท จาก แจ๊ค สแวกเกอร์ ร่วมด้วย ซีเอ็ม พังค์ และ บิ๊กโชว์ และ เรย์ ได้กลายเป็นผู้ชนะและคว้า แชมป์โลกเฮฟวี่เวท เป็นสมัยที่ 2 ได้สำเร็จ แต่ครองแชมป์ได้เพียงแค่เดือนเดียว เรย์ ก็เสีย แชมป์โลกเฮฟวี่เวท ให้กับ เคน เพราะว่าหลังจาก เรย์ ชนะ แจ๊ค สแวกเกอร์ ไปแล้ว แต่ เคน กับใช้สิทธิ์กระเป๋า Money In The Bank ในสภาพที่ เรย์ ไม่พร้อมปล้ำและรวมทั้งขาของ เรย์ ที่ยังเจ็บอยู่ ทำให้ เรย์ พ่ายแพ้ต่อ เคน และเสีย แชมป์โลกเฮฟวี่เวท ไปในที่สุด ต่อมา ในศึก SmackDown เรย์ จะต้องเจอกับ แจ๊ค สแวกเกอร์ เพื่อหาผู้ท้าชิงอันดับ 1 และ เรย์ เป็นฝ่ายชนะ แจ๊ค สแวกเกอร์ และได้ขอท้าชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท คืนจาก เคน ในศึก Summerslam แต่สุดท้าย เรย์ ก็ไม่สามารถเอาชนะ เคน มาได้ ต่อมา เรย์ ก็ได้เปิดศึกกับ อัลเบอร์โต เดล ริโอ ซึ่ง เรย์ ถูก อัลเบอร์โต เดล ริโอ เล่นงานที่แขนซ้าย จนต้องพักการปล้ำไป แต่อีกไม่นาน เรย์ ก็กลับมาเอาคืน อัลเบอร์โต เดล ริโอ ด้วยการเอาชนะและทำลายสถิติไร้พ่ายของเขาตั้งแต่ที่เข้ามาปล้ำใน WWE ล่าสุด เรย์ สามารถ เอาชนะ โคดี้ โรดส์ และได้เข้าไปเป็นสมาชิกคนที่ 2 ของทีม SmackDown ไปเจอกับทีม Raw ในศึก แบรกกิ้ง ไรท์ส (2010) และทีม SmackDown ก็เป็นฝ่ายเอาชนะทีม Raw มาได้สำเร็จ ต่อมาในศึก เซอร์ไวเวอร์ ซีรีส์ (2010) ทีมของ เรย์ นำโดย เรย์, บิ๊กโชว์, โคฟี่ คิงส์ตัน, เอ็มวีพี และ คริส มาสเตอร์ ปะทะกับ ทีมของ อัลเบอร์โต เดล ริโอ ที่มีทั้ง ดรูว์ แมคอินไตย์, โคดี้ โรดส์, ไทเลอร์ เร็คส์ และ แจ๊ค สแวกเกอร์ และทีมของ เรย์ ก็เป็นฝ่ายเอาชนะทีมของ อัลเบอร์โต เดล ริโอ มาได้สำเร็จ ต่อมา เรย์ จะต้องเจอกับ เคน, อัลเบอร์โต เดล ริโอ และ เอดจ์ ในการปล้ำ 4 เส้า เพื่อชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท ในศึก TLC: Tables, Ladders & Chairs (2010) ในรูปแบบการปล้ำ TLC Match สุดท้ายกลายเป็น เอดจ์ ที่สามารถคว้า แชมป์โลกเฮฟวี่เวท มาครองได้สำเร็จ
[แก้]ปี 2011
ในศึก รอยัลรัมเบิล (2011) เรย์ ได้เข้าร่วมในแมตช์การปล้ำ รอยัลรัมเบิล โดยออกมาเป็นคนที่ 29 แต่สุดท้าย เรย์ ก็ไม่ได้เป็นผู้ชนะ ต่อมาในศึก อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2011) เรย์ จะต้องเจอกับ เอดจ์, เคน, ดรูว์ แมคอินไตย์, เวด บาร์เร็ตต์ และ บิ๊กโชว์ ในแมตช์การปล้ำ Elimination Chamber เพื่อชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท แต่สุดท้ายกลายเป็น เอดจ์ เจ้าของตำแหน่งแชมป์โลกเฮฟวี่เวท ที่สามารถป้องกันแชมป์ไว้ได้สำเร็จ ต่อมา เรย์ ได้เปิดศึกกับ โคดี้ โรดส์ และท้าเจอกันในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 27 สุดท้าย เรย์ ก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ให้กับ โคดี้ โรดส์ ไปในที่สุด
[แก้]เกี่ยวกับมวยปล้ำ



เรย์ ใช้ท่า 619 เล่นงาน เอ็ดดี้ เกอร์เรโร่


เรย์ เล่นงาน เคน ด้วยท่า West Coast Pop


เรย์ ใช้ท่า West Coast Pop เล่นงาน เคิร์ต แองเกิล
ท่าไม้ตาย
"619"
"West Coast Pop"
"Frog splash"
ผู้จัดการ
Torrie Wilson
Tygress
ฉายา / ชื่ออื่น
"El Super Duper Niño" ("The Super Duper Kid") (ECW)
"The Technical Kid From San Diego" (ECW / WCW)
"The Giant Killer" (WCW / WWE)
"The Master of the 619" (WWE)
"The Ultimate Underdog" (WCW / WWE)
"The Biggest Little Man" (WWE)
"The Masked Maestro"(WWE)
"The Heart and Soul of Smackdown"
"The Sensation" (WWE)
"God's Humble Servant"(WWE)
เพลงเปิดตัว
"March of Death" โดย Jimmy Hart (WCW) (1992–1999)
"Bow Wow Wow" โดย Konnan and Mad One (WCW) (1999)
"Psycho" โดย Konnan and Mad One (WCW) (1999–2001)
"619" โดย Chris Classic and Jim Johnston (WWE) (2002–2005)
"Booyaka" โดย Rey Mysterio and Mad One (WWE) (2005–2006)
"Booyaka 619" โดย P.O.D. (WWE) (2006–ปัจจุบัน)
[แก้]ผลงานรางวัลและแชมป์โลก



เรย์ มิสเตริโอ กับ แชมป์ WWE Tag Team คู่กับ เอ็ดดี เกอร์เรโร
Asistencia Asesoría y Administración
Mexican National Trios Championship (1 time) – with Octagón and Super Muñeco[1]
Mexican National Welterweight Championship (1 time)[2]
AAA Hall of Fame (Class of 2007)
International Wrestling All-Stars
IWAS Tag Team Championship (1 time) – with Konnan[3]
Pro Wrestling Illustrated
PWI ranked him #4 of the 500 best singles wrestlers in the PWI 500 in 1999[4]
PWI ranked him #56 in the PWI Years in 2003
Tijuana, Mexico
Tijuana Hall of Fame (Class of 2006)
World Championship Wrestling[5]
WCW Cruiserweight Championship (5 times)
WCW Cruiserweight Tag Team Championship (1 time) – with Billy Kidman
WCW World Tag Team Championship (3 times) – with Billy Kidman (1), Konnan (1), and Juventud Guerrera (1)
World Wrestling Association
WWA Lightweight Championship (3 times)[6]
WWA Tag Team Championship (1 time)[7] – with Rey Misterio
WWA Welterweight Championship (3 times)[8]
World Wrestling Council
WWC World Junior Heavyweight Championship (1 time)[9]
World Wrestling Entertainment
World Heavyweight Championship (2 times)[10]
WWE Intercontinental Championship (2 times)[11][12]
WWE Tag Team Championship (4 times) – with Edge (1), Rob Van Dam (1), Eddie Guerrero (1), and Batista (1)[13]
WWE Cruiserweight Championship (3 times)
2010 Bragging Rights Cup with Smackdown Team.
Royal Rumble (2006)
Twenty First Triple Crown Champion
Wrestling Observer Newsletter awards
Best Flying Wrestler (1995 – 1997, 2002 – 2004)
Best Wrestling Maneuver (1995) West Coast Pop
Match of the Year (2002) with Edge vs. Chris Benoit and Kurt Angle, WWE No Mercy, October 20
Most Outstanding Wrestler (1996)
Rookie of the Year (1992)
Worst Feud of the Year (2008) with Kane
Wrestling Observer Newsletter Hall of Fame (Class of 2010)
ฉายา Colibrí
Rey Mysterio, Jr.
Rey Misterio, Jr.
Super Niño
Rey Mysterio
ความสูง 5 ฟุต 6 นิ้ว (1.68 ม.)
น้ำหนัก 175 ปอนด์ (79 กก.)
เกิด 11 ธันวาคม ค.ศ. 1974 (อายุ 36 ปี)
ซานดีเอโก, แคลิฟอร์เนีย
พำนัก ซานดีเอโก, แคลิฟอร์เนีย
มาจาก ซานดีเอโก, แคลิฟอร์เนีย
ฝึกหัดโดย Rey Misterio, Sr.
เปิดตัว 30 เมษายน ค.ศ. 1989

แชมป์ยาวเป็นพืด