Begin Experience Wrestling Official
Begin Experience Wrestling Official
Begin Experience Wrestling Official
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.



 
บ้านLatest imagesค้นหาสมัครสมาชิก(Register)เข้าสู่ระบบ(Log in)


 

 เปิดตำนาน ตำหน่อยอร่อยแน่ : นี่หรือคือมวยปล้ำ

Go down 
2 posters
ผู้ตั้งข้อความ
Drama
Gold Star
Gold Star
Drama


จำนวนข้อความ : 86
Join date : 25/04/2011

เปิดตำนาน ตำหน่อยอร่อยแน่ : นี่หรือคือมวยปล้ำ Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: เปิดตำนาน ตำหน่อยอร่อยแน่ : นี่หรือคือมวยปล้ำ   เปิดตำนาน ตำหน่อยอร่อยแน่ : นี่หรือคือมวยปล้ำ Icon_minitimeThu Apr 28, 2011 2:32 am

มวยปล้ำ (Wrestling) เป็นกีฬาที่เก่าที่สุดอย่างหนึ่ง เพราะก่อนที่มนุษย์จะรู้จักการใช้อาวุธ เช่น หอก ขวาน หรือธนู เพื่อเอาไว้สู้กับสัตว์ร้ายนั้นมนุษย์จะต้องฝึกหัดมวยปล้ำไว้เพื่อป้องกัน ตัวจากสัตว์ร้ายหรือพวกมนุษย์ด้วยกันเอง อย่างไรก็ตาม มวยปล้ำที่กล่าวนี้แตกต่างไปจากมวยปล้ำในปัจจุบัน เพราะไม่ใช่กีฬาฝึกในเวลาว่าง หรือเพื่อผ่อนคลายอารมณ์ในสังคม มวยปล้ำสมัยแรกเริ่มนั้นฝึกกันเพื่อความอยู่รอดในการดำรงชีวิต ทั้งชีวิตของตัวเองและชีวิตของสมาชิกในครอบครัว ยิ่งกว่านั้นมวยปล้ำยังช่วยให้สามารถหาอาหารได้

มื่อมนุษย์เรียนรู้การใช้ประโยชน์จากไฟ การเพาะปลูก การเลี้ยงสัตว์ และการทำเครื่องมือจากโลหะ บทบาทของมวยปล้ำก็เปลี่ยนไป มวยปล้ำกลายเป็นสิ่งที่ให้ความบันเทิง ผู้ชายจะมาเล่ามวยปล้ำเพื่อทดสอบความแข็งแรง และเพื่อจะเป็นผู้ที่แข็งแรงที่สุดในกลุ่มเสมอ โดยใช้มวยปล้ำในการคัดเลือกหัวหน้าเผ่าหรือแม่ทัพในการทำสงคราม ผู้ที่ชนะเลิศในการปล้ำ จะได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้แข็งแรงที่สุด และได้รับการโห่ร้องแสดงความยินดีจากคนทั่วไปบางครั้งถึงกับประพันธ์เป็น เพลงร้องสรรเสริญ หรือแต่งเป็นตำนานเล่าต่อๆ กันมาหรือสร้างเป็นอนุสาวรีย์

ยุคก่อนประวัติศาสตร์มนุษย์ต้องเตรีมการต่อสู้ ป้องกันตัวจากสัตว์ร้ายและต้องมีกำลังพอที่จะต้องต่อสู้อย่างเข้มแข็ง

มวยปล้ำกลายมาเป็นกีฬาเมื่อโลกเข้าสู่ยุคอารยะ โดย S.A. Sperider ค้นพบเมื่อปี พ.ศ. 2481 ว่ากีฬามวยปล้ำเริ่มในยุคเมโสโปเตเมีย


สิ่งที่กล่าวมาแล้วยืนยันได้จากภาพเขียนและภาพแกะ สลักรูปมวยปล้ำในท่าต่างๆ มากมายที่ผนังของวิหาร และสุสานเบนิ ฮัสซาน (Beni Hassan) จำนวน 200รูป ในประเทศอียิปต์ภาพเขียนที่ผนังถ้ำก็มีภาพของการปล้ำทางแถบลุ่มแม่น้ำ 2 สาย ก็มีผู้พบรูปมวยปล้ำในวิหารคยาฟาเจ (Kyafaje) ใกล้ๆ กับเมืองแบกแดด ประเทศอิรัก รูปมวยปล้ำที่พบนี้เป็นฝีมือของชาวสุเมเรียน ซึ่งเป็นชนชาติที่หายสาปสูญไปนานแล้ว และที่เกาะครัตก็ได้พบภาพเขียนรูปมวยปล้ำที่แจกันซึ่งมีความเก่าแก่ไม่น้อย กว่า 1,600 ปีก่อนคริสต์ศักราช

นอกจากหลักฐานซึ่งเป็นภาพวาด ภาพแกะสลัก หรือรูปหล่อดังที่กล่าวมาแล้วก็ยังมีพงศาวดาร ตำนาน กาพย์ โคลง หรือเรื่องที่เล่าต่อกันมาเกี่ยวกับมวยปล้ำ เช่นพงศาวดารมวยปล้ำของบาบิโลเนีย และแอสซีเรีย ได้บันทึกไว้ว่ามวยปล้ำมีขึ้นในอาณาจักรทั้งสองนี้มากว่า 2,000 ปีก่อนคริสตศาสนา พงศาวดารดังกล่าวได้พรรณนาไว้ในโคลงเรื่องจิลกาเมซ ซึ่งเป็นนิยาย โบราณที่เล่าถึงการผจญภัยอย่างห้าวหาญของจิลกาเมซ ผู้เป็นพระราชาครองนครอูที่มีรูปร่างสูงใหญ่ถึง 16 ฟุต เดิมเป็นคนเลี้ยงแกะอยู่ใกล้กับนครอู มีนิสัยพาลเกเร พระเจ้าต้องการสั่งสอนให้เขาสำนึกผิด จึงเนรมิตคนป่าชื่อเอ็นกิดูให้มาสู้กับจิลกาเมซ เอ็นกิดูจึงเดินทางรอนแรมไปนครอู และท้าทายให้จิลกาเมซมาสู้กันด้วยเชิงมวยปล้ำ จิลการเมซรับคำท้าทายแล้วมาสู้กันที่ตลาด ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันอย่างดุเดือด แต่ก่อนที่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดจะพ่ายแพ้พระผู้เป็นเจ้าก็ปรากฏตัวออกมาให้เห็น แล้วให้คนทั้งสองคนดีกัน จิลกาเมซและเอ็นกิดูกอดคอกันเป็นเพื่อนตาย แล้วออกพจญภัยไปทั่วอาณาจักรจนกลายมาเป็นพระราชาแห่งนครอู

ยิวซึ่งเป็นชาติเก่าแก่ที่มีหลักฐานว่าได้เล่นมวย ปล้ำในสมัยเดียวกับชาวสุเมเรียน โดยมีหลักฐานยืนยันในโอลดี เทศทาเมนต์ ตอนที่ 32 ภาคเยเนซิสว่า เมื่อยาค็อบถูกละทิ้งไว้เดียวดาย แล้วยาค็อบก็ได้ปล้ำกับชายคนหนึ่งจนถึงรุ่งเช้า ทันใดนั้นศัตรูของยาค็อปก็บันดาลร่างเป็นเทพยดาในมหากาฬย์ของโฮเมอร์ (Homer) ซึ่งนักประวัติศาสตร์ใช้เป็นหลักฐานทำให้ทราบเรื่องราวต่างๆ ของกรีซสมัยประวัติศาสตร์ เพราะตัวเอกของเรื่องมีความสามารถในเรื่องมวยปล้ำ นอกจากนี้ยังมีเรื่องเล่าถึงนักมวยปล้ำที่ยิ่งใหญ่ของกรีซคือ ไมโล แห่งโครตอน ซึ่งชนะเลิศในโอลิมปิกเกมส์ถึง 5 ครั้ง การฝึกของเขาเป็นที่กล่าวกันว่าเขาแบกลูกวัวไปรอบๆ สนามซึ่งเป็นแบบอย่างเบื้องต้นของการฝึกยกน้ำหนักในปัจจุบัน เพราะลูกวัวจะโตขึ้นเรื่อยๆ เป็นการเพิ่มน้ำหนัก ร่างกายของไมโลก็จะแข็งแรงขึ้น เพื่อที่จะรับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นของลูกวัว

ประมาณ 900 ปี ก่อนคริสตศาสนา ราชโอรสของยีอุส กษัตริย์แห่งเอเธนส์ ได้พยายามหามาตรฐานกติกากีฬามวยปล้ำ

[You must be registered and logged in to see this image.]

มวยปล้ำทางเอเชียก็เป็นที่นิยมแพร่หลายตั้งแต่สมัย โบราณเช่นกันโดยเฉพาะในเอเชียกลาง และเอเชียไกล ตามหลักฐานแสดงว่าภูมิภาคแถบนี้มีการเล่นมาอย่างน้อย 5,000 ปี ที่มองโกเลีย และจีน มวยปล้ำเป็นการแสดงทางพิธีศาสนาตามที่พงศวดารได้บันทึกเป็นหลักฐานว่า การแข่งขันมวยปล้ำในญี่ปุ่นมีก่อนคริสต์ศาสนา ซึ่งมีเรื่องที่เป็นตำนานเล่ากันต่อมา นานมาแล้วพระอาทิตย์ไม่ยอมส่องแสงมายังโลก โดยซ่อนตัวอยู่ในถ้ำลึกที่เต็มไปด้วยความชึ้นแฉะบริเวณภูเขาไฟฟูจิยามา เมื่อมนุษย์ สัตว์ และพืชทั้งหลายขาดแสงอาทิตย์ ก็ไม่สามารถที่จะดำรงชีวิตอยู่ได้ ดังนั้นประชาชนต่างก็เอาของกำนัลที่มีค่า และเครื่องสังเวยต่างๆ มากมายมาบวงสรวง

บางพวกก็สวดมนต์อ้อนวอนเพื่อให้พระอาทิตย์เกิดความ สงสารจะได้เปลี่ยนความตั้งใจเดิม แต่ทุกสิ่งที่ทำไปก็ไร้ประโยชน์ ความมืดยังปกคลุมโลกอยู่ทั่วไป ในที่สุดก็มีผู้แนะนำให้จัดมวยปล้ำระหว่างผู้ที่แข็งแรงที่สุดของเกาะเพื่อ บวงสรวง เพราะทราบว่าพระอาทิตย์สนใจและชอบดูมวยปล้ำ ฉะนั้นซูโม่จึงได้ถูกจัดขึ้นทำให้พระอาทิตย์ไม่สามารถจะทนความยั่วยวนในสิ่ง ที่ตนชอบในถ้ำได้ จึงออกมาจากถ้ำทำให้มนุษย์ สัตว์ และพืช ได้รับแสงสว่างอีกครั้งหนึ่ง

ส่วนทางอินเดียก็มีการแข่งขันมานานราว 2,000 ปี ที่ตุรกีมวยปล้ำก็เป็นกีฬาประจำชาติแม้กระทั่งปัจจุบันนี้ ตุรกีก็ยังคงนิยมการเล่นมวยปล้ำอยู่ และสามารถครองแชมป์มวยปล้ำในกีฬาโอลิมปิกไว้เสมอ

ในปี 648 ก่อนคริสตศักราช แพนคราตั้น (Pancratun) ก็ถูกนำเข้ามาแข่งขัน ซึ่งแพนคราตั้นสามารถเตะ ต่อย และเหวี่ยงได้ ซึ่งเป็นแบบหนึ่งของมวยปล้ำที่ได้รับความนิยมมาก การแข่งขันครั้งนี้ทำให้การกีฬาตกต่ำ เพราะนำไปสู่กีฬาอาชีพและมีการติดสินบนเพื่อการแพ้ชนะด้วย


กีฬามวยปล้ำเริ่มได้รับความสนใจในสมัยกลางอีกครั้ง หนึ่ง หลังจากซบเซาในยุคมืดและได้รับความนิยมมากในศตวรรษที่ 18 มีบันทึกเรื่องราวที่กล่าวถึงมวยปล้ำมากมาย รวมทั้งเรื่องเล่าเกี่ยวกับการต่อสู้มวยปล้ำระหว่างพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ของอังกฤษ กับพระเจ้าฟรานซิสที่ 1 ของฝรั่งเศส ที่สนามโคลัช ออฟโกลด์ ซึ่งกีฬามวยปล้ำได้รับความสนใจในส่วนต่างๆ ของโลก โดยเฉพาะทางตะวันตกของยุโรปสหรัฐอเมริกา และดินแดนที่ชาวยุโรปเข้าไปตั้งหลักแหล่ง มีการจัดชิงแชมเปี้ยนตามภาคพื้นต่างๆ ของโลก มวยปล้ำจึงเป็นกีฬาที่ทำให้เกิดกีฬาการต่อสู้หลายๆ ประเภทในเวลาต่อมา

[You must be registered and logged in to see this image.]

มวยปล้ำในกีฬา โอลิมปิก

Baron Pia De Coubatin ชาวฝรั่งเศส เป็นผู้ฟื้นฟูกีฬาโอลิมปิกขึ้นมาใหม่ โดยครั้งแรกจัดที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ ในปี พ.ศ. 2439 แต่มวยปล้ำก็ยังไม่ได้เป็นกีฬาที่ใช้แข่งขัน จนกระทั่งโอลิมปิก ครั้งที่ 3 ในปี พ.ศ. 2447 ซึ่งจัดที่เมืองเซนต์หลุยส์ รัฐมิสซูรี่ สหรัฐอเมริกา มวยปล้ำจึงเป็นกีฬาที่อยู่ในการแข่งขันด้วยและมีในการแข่งขันโอลิมปิกเรื่อย มาจนกระทั่งปัจจุบัน ซึ่งการแข่งขันมวยปล้ำในกีฬาโอลิมปิกมีถึง 3 แบบคือ ฟรีสไตล์ เกรโกโรมัน และแซมโบ ดังนั้นเหรียญสำหรับกีฬาประเภทนี้จึงมีถึง 30 เหรียญ

ในเอเชียมวยปล้ำเริ่มเป็นกีฬาในการแข่งขันเอเชีย นเกมส์ ครั้งที่ 2 ซึ่งประเทศฟิลิปปินส์ เป็นเจ้าภาพ โดยจัดให้มีการแข่งขัน 2 ประเภทคือ แบบฟรีสไตล์และแบบเกรโกโรมัน ซึ่งการแข่งขันมวยปล้ำในเอเชียนเกมส์ก็ยังคงมีอยู่จนกระทั่งปัจจุบัน

[You must be registered and logged in to see this image.]


เครดิต [You must be registered and logged in to see this link.]

ปล. รูปสุดท้ายสังเกตุดีดีจะมีตำนานมวยปล้ำญี่ปุ่นเพียบ เสื้อขาวใครเอ่ย ถูกนำไปวาดเป็นการ์ตูนด้วยแหละ ให้เดากันเล่นๆ
ขึ้นไปข้างบน Go down
Arm
The Legend
The Legend
Arm


จำนวนข้อความ : 245
Join date : 30/04/2011
Age : 28
ที่อยู่ : แฟลตทหารเรือ บางนา

เปิดตำนาน ตำหน่อยอร่อยแน่ : นี่หรือคือมวยปล้ำ Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: เปิดตำนาน ตำหน่อยอร่อยแน่ : นี่หรือคือมวยปล้ำ   เปิดตำนาน ตำหน่อยอร่อยแน่ : นี่หรือคือมวยปล้ำ Icon_minitimeSun May 29, 2011 12:06 pm

เสื้อขาวใครว่ะนั่น?? 55+
ขึ้นไปข้างบน Go down
 
เปิดตำนาน ตำหน่อยอร่อยแน่ : นี่หรือคือมวยปล้ำ
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1
 Similar topics
-
» เปิดตำนาน ตำหน่อยอร่อยแน่ : สุดหล่อของเมืองไทย
» เปิดตำนาน ตำหน่อยอร่อยแน่ : Mafia ที่สุดแห่งอิทธิพล
» เปิดตำนาน ตำหน่อยอร่อยแน่ : ดูเอาเอง 18+
» เปิดตำนาน ตำหน่อยอร่อยแน่ : The One And Only - Marioโหม่งเห็ด
» เปิดตำนาน ตำหน่อยอร่อยแน่ : เชลขวนชิม เนื้อมนุึษย์อันโอชะ

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
Begin Experience Wrestling Official :: BEW Cafe' :: Rest Room-
ไปที่: