Begin Experience Wrestling Official
Begin Experience Wrestling Official
Begin Experience Wrestling Official
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.



 
บ้านLatest imagesค้นหาสมัครสมาชิก(Register)เข้าสู่ระบบ(Log in)


 

 ประวัติ John Cena

Go down 
2 posters
ผู้ตั้งข้อความ
Pokawit
The Legend
The Legend
Pokawit


จำนวนข้อความ : 220
Join date : 13/04/2011
Age : 25
ที่อยู่ : 9/71 ม.4 ต.ท่าตลาด อ.สามพราน จ.นครปฐม

ประวัติ John Cena Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: ประวัติ John Cena   ประวัติ John Cena Icon_minitimeSun Apr 17, 2011 7:48 am

จอห์น เฟลิกซ์ แอนโธนี ซีนา[3] (อังกฤษ: John Felix Anthony Cena) เกิดวันที่ 23 เมษายน ค.ศ. 1977 ที่ เวสต์ นิวเบอรรี่, แมสซาชูเซตส์ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันอย่างดีในนามสังเวียนมวยปล้ำมีชื่อว่า จอห์น ซีนา (อังกฤษ: John Cena) เป็นนักแสดง นักร้อง ฮิปฮอป และ นักมวยปล้ำอาชีพชาวอเมริกัน ปัจจุบันได้เซ็นสัญญาสังกัดอยู่กับสมาคม เวิลด์เรสต์ลิงเอ็นเตอร์เทนเมนต์ หรือ WWE ในค่ายสังกัด Raw และได้ แชมป์โลก 9 สมัย (แชมป์ WWE 7 สมัย และ แชมป์โลกเฮฟวี่เวท 2 สมัย) แชมป์ยูเอส 3 สมัย, แชมป์โลก Tag Team 2 สมัย, แชมป์ WWE Tag Team 2 สมัย และเขายังเป็นผู้ชนะ Royal Rumble ประจำปี 2008 อีกด้วย
ประวัติในวงการมวยปล้ำอาชีพ

[แก้]ก่อนเข้าวงการมวยปล้ำ
หลังจบการศึกษาจาก สถาบัน คุชชิง อคาเดมี่ ได้ศึกษาต่อที่ สปิงค์ฟิวด์ คอลเลต ที่ สปิงค์ฟิวด์,แมตซาซูเซตท์ ในสาขา สรีระวิทยา และยังเป็นนักอเมริกันฟุตบอล ในดิวิชั่น 3 สวมเสื้อเบอร์ 54 และจบการศึกษาในปี ค.ศ. 1998 หลังจากเรียนจบเขาได้ทำงานเป็นนักเพาะกาย และ พนักงานขับรถ ลีมูซีน
[แก้]ในสังเวียนมวยปล้ำ
ซีนา ได้ฝึกฝนในสมาคม Ultimate University โดยใช้ชื่อในการปล้ำว่า The Prototype หรือ Mr.P และได้แชมป์เฮฟวี่เวท ในเดือน เมษายน ปี 2000 และได้แชมป์แทคทีม คู่กับ ริโก้ คอนสเตนติโน 2 สมัย และในปี 2001 ได้เซ็นสัญญากับ WWF (ภายหลังเปลี่ยนเป็น WWE ในปี 2002 - ปัจจุบัน) ในสไตล์เด็กแร็พและในปัจจุบันในสไตล์ทหาร
[แก้]เวิลด์เรสต์ลิงเอ็นเตอร์เทนเมนต์ (2002-ปัจจุบัน)
[แก้]ปี 2002
ซีนาได้เปิดตัวครั้งแรกวันที่ 27 มิถุนายน ในศึก SmackDown ซึ่ง เคิร์ต แองเกิล ได้ขึ้นมาบนเวทีและท้านักมวยปล้ำคนไหนก็ได้ให้ออกมาสู้กับเขา เป็นซีนาที่ออกมารับคำท้า และแมตซ์นั้นเองคือแมตซ์การปล้ำแมตซ์แรกของเขาใน WWE และซีนาก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้แองเกิลไป จากนั้นมาซีนาก็กลายเป็นขวัญใจของแฟนๆมวยปล้ำ พร้อมทั้งหันไปเปิดศึกกับ คริส เจอริโก้ และ สามารถเอาชนะเจอริโก้ในศึก Vengeance ได้อีกด้วย ต่อมาในเดือนตุลาคม ซีนาได้จับคู่กับ บิลลี่ คิดแมน ร่วมปล้ำในทัวร์นาเมนต์หาแชมป์แทคทีม WWE แต่ก็พ่ายแพ้ตกรอบแรกไป ทำให้ซีนาโมโห ทำร้ายคิดแมน และกลายเป็นฝ่ายอธรรมไปในที่สุด
[แก้]ปี 2003
ในศึก Backlash 2003 ซีนาได้มีโอกาสชิงแชมป์ WWE กับ บรอค เลสเนอร์ ตอนนี้เองที่ซีนาได้คิดท่าไม้ตาย F-U (ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น Attiude Adjustment) ซึ่งล้อเลียนท่าไม้ตาย F-5 ของเลสเนอร์ แต่ซีนาก็ไม่สามารถคว้าแชมป์มาได้ จากนั้นซีนาก็ไปเปิดศึกกับ ดิ อันเดอร์เทคเกอร์ และเป็นฝ่ายพ่ายแพ้เทคเกอร์ในศึก Vengeance เมื่อถึงท้ายปี ซีนาก็หันกลับมาเป็นฝ่ายธรรมะอีกครั้ง และได้ร่วมทีมกับเคิร์ต แองเกิล เอาชนะทีมของ บรอค เลสเนอร์ ไปได้ ในศึก Survivor Series 2003
[แก้]ปี 2004


จอห์น ซีนา กับ แชมป์ยูเอส
ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 20 ซีนา ได้แชมป์ United States Champion จาก Big Show และเป็นแชมป์แรกในสมาคม WWE หลังจากนั้นก็ทำให้ จอห์น ซีนา เป็นขวัญใจของแฟนๆมวยปล้ำทั่วประเทศและเขาไปดัดแปลงลักษณะของเข็มขัดให้สามารถหมุนได้ เป็นที่นิยมของเด็กๆ และ วัยรุ่นเป็นอย่างมาก และหลังจากนั้น จอห์น ซีนา ก็พัฒนาฝีมือการปล้ำได้เยอะเลยทีเดียว
[แก้]ปี 2005
ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 21 เขาได้คว้าแชมป์ WWE Champion ครั้งแรกจาก JBL และเมื่อ ซีนา ได้ครองเข็มขัดแชมป์ทั้งสองเส้นนั้น เขาไปดัดแปลงลักษณะของเข็มขัดให้สามารถหมุนได้ เป็นที่นิยมของเด็กๆ และ วัยรุ่นเป็นอย่างมาก ซึ่งดัดแปลงเหมือน แชมป์ยูเอส อีกทั้งตัวเขายังเป็นขวัญใจสาวๆหลายๆคนอีกด้วย หลังจากนั้น แชมป์ WWE จอห์น ซีนา ก็ ดราฟท์ ไปอยู่ Raw โดยสลับกับ แชมป์โลกเฮฟวี่เวท บาติสต้า โดย ซีนา ได้เปิดศึกกับ คริส เจอริโก้ เป็นคนแรกหลังจากย้ายมาอยู่ Raw โดย ซีนา ชนะ คริส เจอริโก้ 3-4 ครั้ง จนกระทั่ง คริส เจอริโก้ ต้องพักการปล้ำ จากนั้น เคิร์ต แองเกิล ก็ขอชิงแชมป์ WWE กับ จอห์น ซีนา แต่ ซีนา ก็ชนะ เคิร์ต แองเกิล ได้เกือบทุกครั้ง
[แก้]ปี 2006
ในศึก New Year's Revolution จอห์น ซีนา ได้เสียแชมป์ WWE ให้กับ เอดจ์ เพราะหลังจาก ซีนา ชนะทั้ง เคิร์ต แองเกิล, ชอว์น ไมเคิลส์, เคน, คริส มาสเตอร์ & คาร์ลิโต้ และป้องกันแชมป์ไว้ได้ แต่ เอดจ์ ใช้แผนสกปรกและทำให้ ซีนา เสียแชมป์โลกเป็นครั้งแรก ทำให้ ซีนา แค้น เอดจ์ มาก และในศึก Royal Rumble 2006 ซีนา ก็เอาคืน เอดจ์ และกลับมาเป็นแชมป์ WWE อีกครั้ง และในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 22 จอห์น ซีนา ได้ปะทะกับสุดยอดนักมวยปล้ำของ WWE ทริปเปิล เอช เป็นครั้งแรกแล้ว ซีนา ก็เป็นฝ่ายสามารถเอาชนะและป้องกันแชมป์เอาไว้ได้สำเร็จ แต่ก็ถูก เอดจ์ ทิ้งลงแม่น้ำภายหลังจากที่เสียแชมป์ให้ และเข็มขัดก็ถูกเปลี่ยนรูปแบบไปอีก แต่ ซีนา ก็สามารถปราบ เอดจ์ ได้อีกครั้งและคว้าแชมป์ WWE คืน มาได้ และเปลี่ยนจากรูป "R" มาเป็น "W" ดังเดิมและหลังจากนั้น จอห์น ซีนา ก็สามารถชนะนักมวยปล้ำที่เก่งกาจได้หลายคนทั้ง ทริปเปิล เอช, ชอว์น ไมเคิลส์, เอดจ์, เคิร์ต แองเกิล, คริส เจอริโก้, แรนดี ออร์ตัน, บิ๊กโชว์ ทำให้พูดได้ว่า จอห์น ซีนา กลายเป็นนักมวยปล้ำที่แข็งแกร่งที่สุดในยุคนี้อีกด้วย และท้ายที่สุดเขาอาจจะกลายเป็นหนึ่งในตำนานของ WWE อย่างเช่น Stone Cold Steve Austin,The Rock, Hulk Hogan, Bret Hart และ The Undertaker
[แก้]ปี 2007
ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 23 จอห์น ซีนา จะต้องป้องกันแชมป์กับนักมวยปล้ำมากฝีมือระดับตำนานอย่าง ชอว์น ไมเคิลส์ ผลสรุปคือสู้กันอย่างสูสีและเป็น ซีนา ที่ป้องกันแชมป์โลกเอาไว้ได้หลังจากนั้น จอห์น ซีนา ก็ครองแชมป์ได้ยาวนานตั้งแต่ปี 2006 - 2007 จนกระทั่ง แรนดี ออร์ตัน ได้ไปทำร้ายพ่อของตน ทำให้ ซีนา แค้นและโมโห แรนดี ออร์ตัน มาก ซีนา จึงอัดและเล่นงาน แรนดี ออร์ตัน อย่างหนักและให้พ่อของตน จัดการ แรนดี ออร์ตัน โดยเตะหัวกะโหลกศีรษะทำเอา ออร์ตัน เจ็บหนักมาก ต่อมา ซีนา ก็ต้องสละ แชมป์ WWE ของตนและพักการปล้ำเนื่องจากอาการบาดเจ็บทำให้ ซีนาต้องพักนานหลายเดือน
[แก้]ปี 2008
ในศึก รอยัลรัมเบิล (2008) จอห์น ซีนา ได้กลับมาร่วม ศึก Royal Rumble ครั้งนี้ ซึ่งเขาสามารถเอาชนะ Triple H และ Batista ในรอบ 3 คนสุดท้าย โดยการจับเหวี่ยงจนหมด เขาเป็นผู้ชนะเลิศ Royal Rumble ที่ขึ้นมาเป็นคนที่ 30 เช่นเดียวกับ The Undertaker ที่ขึ้นมาเป็นคนที่ 30 เมื่อปี 2007 แต่ จอห์น ซีนา ก็ไม่สามารถนำแชมป์โลกมาสู่เข็มขัดของตนได้เหมือนักมวยปล้ำคนก่อนๆ เนื่องจากเขาก็พักการปล้ำไปเพราะอาการบาดเจ็บรบกวน และสุดท้ายก็ได้ชิง แชมป์โลกเฮฟวี่เวท จาก คริส เจอริโก้ ในศึก เซอร์ไวเวอร์ ซีรีส์ (2008) และชนะได้สำเร็จ แต่เข็มขัดเส้นนี้ก็ยังไม่ได้ถูกเปลี่ยนแปลงรูปแบบแต่อย่างใด และ คริส เจอริโก้ พยายามชิงหลายครั้งแต่ ซีนา ก็ชนะทุกครั้ง
[แก้]ปี 2009
ในศึก โนเวย์เอาท์ (2009) จอห์น ซีนา ต้องป้องกันแชมป์โลกเฮฟวี่เวท ในกรงเหล็กมรณะ หรือ Elination Chamber กับนักมวยปล้ำถึง 5 คน ได้แก่ เรย์ มิสเตอริโอ, เคน, ไมค์ นอคซ์, คริส เจอริโก้ และ โคฟี่ คิงส์ตัน ผลปรากฏว่า ตอนเปิดตัว เอดจ์ ได้วิ่งเข้ามาลอบทำร้าย โคฟี่ คิงส์ตัน หลังจากเสียแชมป์ WWE ให้กับ ทริปเปิล เอช ไปแล้ว ทำให้ โคฟี่ คิงส์ตัน หมดสิทธิ์การปล้ำ และ เอดจ์ ก็เข้าไปในกรงแทน และก็ใช้กลโกงสารพัดจนกระชากเข็มขัดแชมป์โลกเฮฟวี่เวท ไปจาก ซีนา ได้สำเร็จ
จอห์น ซีนา แค้นมากที่ตนเสียแชมป์โลกให้ เอดจ์ ตนจึงพยายามหาโอกาสชิงเข็มขัดคืนมา แต่ก็ไม่ได้ซักที เพราะ วิคกี เกอร์เรโร ภรรยาของ เอดจ์ ซึ่งเป็นผู้จัดการทั่วไปของ SmackDown ได้กีดกันทุกวิถีทางไม่ให้ เอดจ์ ได้เจอกับ ซีนา แต่ ซีนา ก็ไม่ยอมแพ้ ขู่ วิกกี้ เรื่องที่เธอแอบเป็นกิ๊กกับ บิ๊กโชว์ จนเธอจำต้องยอมให้ ซีนา ได้ชิงแชมป์กับ เอดจ์ แต่สุดท้ายความจริงก็ปรากฏให้ เอดจ์ รู้ว่าเธอปันใจให้กับ บิ๊กโชว์ ทำให้คู่นี้กลายเป็นศัตรูกัน ทั้งๆที่กะจะรุม ซีนา แต่แรก 3 คนนี้ได้เจอกัน ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 25 ในแมตช์การปล้ำชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท ผลปรากฏว่า ซีนา ได้เล่นงาน เอดจ์ และ บิ๊กโชว์ จนคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 5 มาครองได้สำเร็จ
แต่เรื่องยังไม่จบแค่นั้น เอดจ์ ได้มีโอกาสชิงแชมป์กับ ซีนา อีกครั้ง ในศึก แบคแลช (2009) ซึ่งเป็นโอกาสสุดท้ายของ เอดจ์ ที่จะได้ชิงแชมป์ ทั้งคู่เจอกันในรูปแบบการปล้ำ Last Man Standing Match ซึ่งใครล้มลงไปนอนกับพื้นแล้วถูกกรรมการนับ 10 ก็จะเป็นฝ่ายแพ้ไป ผลปรากฏว่า ซีนา ถูก บิ๊กโชว์ เล่นงานด้วยท่า โชคสแลม กับ ไฟสปอตไลท์ยักษ์ จน ซีนา สลบและแพ้หมดรูป ทำให้ ซีนา ต้องเสียแชมป์คืนให้กับ เอดจ์ ไปในที่สุดทำให้ ซีนา โมโห บิ๊กโชว์ มาก
จน จอห์น ซีนา กลับมาแก้แค้นแล้วก็สามารถล้มปราบ บิ๊กโชว์ ได้สำเร็จและมีเรื่องกับ เดอะ มิซ ยาวนานเจอกันหลายครั้งสุดท้าย จอห์น ซีนา ก็เป็นฝ่ายชนะ เดอะ มิซ ได้ตลอดเวลา ต่อมาในศึก แบรกกิ้ง ไรท์ส (2009) จอห์น ซีนา ได้ขอท้าชิง แชมป์โลก WWE กับ แรนดี ออร์ตัน และสามารถเอาชนะ แรนดี ออร์ตัน และคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 7 มาครองได้สำเร็จ ในรูปแบบการปล้ำ Iron Man Match ซึ่งชนะไป 6-5 ในศึก เซอร์ไวเวอร์ ซีรีส์ (2009) จอห์น ซีนา จะต้องป้องกัน แชมป์ WWE กับกลุ่ม ดิ-เจเรเนชั่น เอ็กซ์ ทั้ง ทริปเปิล เอช และ ชอว์น ไมเคิลส์ ในการปล้ำ 3 เส้า สุดท้าย จอห์น ซีนา สามารถเอาชนะทั้ง ทริปเปิล เอช และ ชอว์น ไมเคิลส์ และป้องกัน แชมป์ WWE ได้สำเร็จ
แต่น่าเสียดายที่ จอห์น ซีนา ต้องเสียแชมป์โลกให้กับนักมวยปล้ำหน้าใหม่ที่ชื่อ เชมัส ในรูปแบบการปล้ำ Table Match ในศึก TLC: Tables, Ladders & Chairs (2009) และในศึก Raw ต่อมา จอห์น ซีนา ได้รับรางวัล Slammy Award รางวัล Superstar of the Year ประจำปี 2009 โดยต้องปล้ำรอบ 4 คนสุดท้าย โดย จอห์น ซีนา ชนะ ซีเอ็ม พังค์ และเข้ารอบชิงชนะเลิศกับ แรนดี ออร์ตัน หลังจาก ออร์ตัน เอาชนะ ดิ อันเดอร์เทคเกอร์ ได้ในรอบ 4 คนสุดท้าย และเป็น ซีนา ที่เอาชนะ แรนดี ออร์ตัน ได้และคว้ารางวัลนี้ไปครองได้สำเร็จ
[แก้]ปี 2010


จอห์น ซีนา กับ แชมป์โลก WWE
ในศึก อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2010) จอห์น ซีนา ได้สามารถคว้า แชมป์โลก WWE กลับคืนมาจาก เชมัส ได้อีกครั้งโดยปล้ำ ในกรงเหล็กมรณะโดย จอห์น ซีนา เอาชนะทั้ง 5 คน มาได้สำเร็จ คือ เชมัส, ทริปเปิล เอช, แรนดี ออร์ตัน, โคฟี่ คิงส์ตัน และ เท็ด ดิบิอาซี่ ได้สำเร็จ แต่หลังจากจบการแข่งขัน บาติสต้า กลับออกมาเล่นงาน จอห์น ซีนา จนทำให้ต้องเสีย แชมป์โลก WWE ให้กับ บาติสต้า อย่างรวดเร็ว จนทำให้ จอห์น ซีนา โมโหมากแต่ก็ถูก บาติสต้า เข้ามาลอบทำร้ายตลอดเวลา จอห์น ซีนา ถึงกับขอท้าชิง แชมป์โลก WWE คืนจาก บาติสต้า ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 26 และสรุปว่า จอห์น ซีนา สามารถเอาชนะ บาติสต้า ได้ด้วยท่า STF ทำให้ จอห์น ซีนา ได้แชมป์โลกเป็นสมัยที่ 9 และเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ของ จอห์น ซีนา และเป็นครั้งแรกด้วยที่ จอห์น ซีนา เอาชนะ บาติสต้า มาได้สำเร็จ
แต่มันยังไม่จบ บาติสต้า ได้มาลอบทำร้าย จอห์น ซีนา ในศึก รอว์ และ บาติสต้า ขอชิงแชมป์โลกคืนจาก ซีนา ในศึก เอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2010) และเจอกันในรูปแบบการปล้ำ Last Man Standing Match แต่ จอห์น ซีนา ก็สามารถเอาชนะ บาติสต้า ไปได้อีกครั้งเป็นครั้งที่ 2 ทำให้ จอห์น ซีนา ป้องกัน แชมป์โลก WWE ของตนเอาไว้ได้ หลังจาก ซีนา ชนะ บาติสต้า แล้ว บาติสต้า ก็ได้เป็นผู้ท้าชิงอันดับ 1 อีกครั้งหลังจากเอาชนะ แรนดี ออร์ตัน และ เชมัส ในการปล้ำ 3 เส้า และเจอกับ ซีนา ในการปล้ำ I Quit Match ในศึก โอเวอร์เดอะลิมิต (2010) สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็เป็นฝ่ายเอาชนะ บาติสต้า ไปได้เป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน และ ซีนา ก็ป้องกัน แชมป์ WWE ของตนเอาไว้ได้อีกครั้งและทำให้ บาติสต้า ได้ประกาศลาออกจากวงการมวยปล้ำของ WWE เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
หลังจากนั้น ในศึก ไฟเทิล โฟร์เวย์ (2010) จอห์น ซีนา ต้องป้องกันแชมป์ WWE กับ แรนดี ออร์ตัน, เชมัส และ เอดจ์ ในการปล้ำ 4 เส้า และ ซีนา ก็ต้องเสียแชมป์คืนให้กับ เชมัส ในที่สุด เพราะพวก WWE NXT ซีซั่น 1 มาลอบทำร้าย ซีนา ทำให้เขาเสียแชมป์ในที่สุด และ ซีนา ขอท้าชิงแชมป์โลก WWE คืนจาก เชมัส ในศึก มันนี่อินเดอะแบงค์ (2010) ในรูปแบบการปล้ำกรงเหล็ก แต่สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็ไม่สามารถเอา แชมป์ WWE คืนจาก เชมัส ได้เนื่องจากพวก The Nexus หรือ WWE NXT ซีซั่น 1 ได้มาก่อกวนการปล้ำของ ซีนา ตลอดเวลา ทำให้ ซีนา แค้นมากแล้วไปมีเรื่องกับพวก The Nexus แล้วท้าปล้ำ Tag Team 7 ต่อ 7 ในศึก ซัมเมอร์สแลม (2010) โดย ซีนา จับคู่กับ เบรต ฮาร์ต, เอดจ์, คริส เจอริโก้, จอห์น มอร์ริสัน, อาร์ ทรูต และ เดอะ เกรท คาลี เพื่อมาปราบพวก The Nexus ก่อนถึงศึก SummerSlam (2010) เดอะ เกรท คาลี ถูกพวก The Nexus เล่นงานทำให้ คาลี ไม่สามารถมาร่วมปล้ำในครั้งนี้ได้ ทำให้ ซีนา ต้องหาคนมาแทน คาลี โดยซีนาให้ แดเนียล ไบรอัน อดีตพวก The Nexus มาปล้ำแทน เกรท คาลี โดยสุดท้าย จอห์น ซีนา จัดการ เวด บาร์เร็ตต์ หัวหน้ากลุ่ม The Nexus เป็นคนสุดท้าย ทำให้ Team WWE เอาชนะพวก The Nexus ได้สำเร็จ ต่อมา ในศึก ไนท์ออฟแชมเปียนส์ (2010) จอห์น ซีนา จะต้องเจอกับ เชมัส, แรนดี ออร์ตัน, เอดจ์, คริส เจอริโก้ และ เวด บาร์เร็ตต์ หัวหน้ากลุ่ม The Nexus ในการปล้ำ 6 คน เพื่อชิงแชมป์ WWE สุดท้ายกลายเป็น แรนดี ออร์ตัน ที่สามารถคว้า แชมป์ WWE มาครอง โดยจัดการ เชมัส เป็นคนสุดท้าย และในศึก เฮลล์อินเอเซลล์ (2010) จอห์น ซีนา จะต้องเจอกับ เวด บาร์เร็ตต์ และ จอห์น ซีนา ก็แพ้ไปให้กับ เวด บาร์เร็ตต์ ไปในที่สุด และทำให้ จอห์น ซีนา ต้องย้ายเข้าไปอยู่กับกลุ่ม The Nexus เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ล่าสุด ในศึก แบรกกิ้ง ไรท์ส (2010) จอห์น ซีนา จะต้องคู่กับ เดวิด โอทังก้า หนึ่งในสมาชิกกลุ่ม The Nexus เจอกับ ดรูว์ แมคอินไตย์ และ โคดี้ โรดส์ ในแมตช์การปล้ำชิงแชมป์ Tag Team และกลายเป็น ซีนา กับ เดวิด โอทังก้า ที่สามารถเอาชนะ ดรูว์ แมคอินไตย์ และ โคดี้ โรดส์ และคว้าแชมป์ Tag Team มาครองได้สำเร็จ แต่ก็เสียแชมป์ Tag Team ให้กับ จัสติน เกเบรียล และ ฮีท สเลเตอร์ สมาชิกของกลุ่ม The Nexus โดย ซีนา กับ เดวิด โอทังก้า ครองแชมป์ Tag Team ได้แค่วันเดียวเท่านั้น และในศึก เซอร์ไวเวอร์ ซีรีส์ (2010) จอห์น ซีนา ต้องเป็นกรรมการพิเศษคู่ชิงแชมป์ WWE ระหว่าง แรนดี ออร์ตัน กับ เวด บาร์เร็ตต์ โดยถ้า เวด บาร์เร็ตต์ ชนะก็จะได้ แชมป์ WWE และ จอห์น ซีนา ก็จะได้ออกจากกลุ่ม The Nexus อย่างถาวรแต่ถ้า เวด บาร์เร็ตต์ แพ้ จอห์น ซีนา ก็ต้องออกจาก WWE และเป็น แรนดี ออร์ตัน ที่ป้องกันแชมป์เอาไว้ได้ ทำให้ จอห์น ซีนา ต้องออกจาก WWE ไปในที่สุด และในศึก Raw ต่อมา จอห์น ซีนา ได้มาก่อกวนการปล้ำของ เวด บาร์เร็ตต์ ในแมตช์การชิงแชมป์ WWE กับ แรนดี ออร์ตัน และ ซีนา ได้เล่นงาน เวด บาร์เร็ตต์ ด้วยท่า Attitude Adjustment ทำให้ เวด บาร์เร็ตต์ เป็นฝ่ายแพ้ให้กับ แรนดี ออร์ตัน ไปในที่สุด ต่อมา เวด บาร์เร็ตต์ จึงต้องเรียก จอห์น ซีนา กลับมา WWE อีกครั้ง และในศึก TLC: Tables, Ladders & Chairs (2010) จอห์น ซีนา จะต้องเจอกับ เวด บาร์เร็ตต์ ในรูปแบบการปล้ำ Chairs Match และสุดท้าย จอห์น ซีนา ก็เป็นฝ่ายชนะ และ ล้างแค้น เวด บาร์เร็ตต์ ได้สำเร็จ
[แก้]ปี 2011


จอห์น ซีนา ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 27
ในศึก รอยัลรัมเบิล (2011) จอห์น ซีนา ได้เข้าร่วมในแมตช์การปล้ำ รอยัลรัมเบิล โดยออกมาเป็นคนที่ 22 แต่สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็ไม่ได้เป็นผู้ชนะ เพราะ เดอะ มิซ เจ้าของแชมป์ WWE ได้มาก่อกวนการปล้ำของ จอห์น ซีนา ต่อมาในศึก อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2011) จอห์น ซีนา จะต้องเจอกับ แรนดี ออร์ตัน, จอห์น มอร์ริสัน, อาร์ ทรูต, เชมัส และ ซีเอ็ม พังค์ ในแมตช์การปล้ำ Elimination Chamber โดยถ้าใครชนะก็จะได้เป็นผู้ท้าชิงอันดับ 1 ในการชิงแชมป์ WWE ในศึก เรสเซิลเมเนีย สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็เป็นฝ่ายชนะ โดยจัดการ ซีเอ็ม พังค์ เป็นคนสุดท้าย ทำให้ จอห์น ซีนา ได้เป็นผู้ท้าชิงอันดับ 1 ในการชิงแชมป์ WWE กับ เดอะ มิซ ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 27 ในศึก Raw ต่อมา จอห์น ซีนา เจอกับ อัลเบอร์โต เดล รีโอ แต่ เดอะ มิซ ก็ปลอมตัวเป็น เดอะ ร็อค มาลอบทำร้าย จอห์น ซีนา จนได้รับบาดเจ็บ และในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 27 จอห์น ซีนา ก็ไม่สามารถคว้าแชมป์ WWE คืนมาได้ เพราะ เดอะ ร็อก ได้มาก่อกวนการปล้ำของ จอห์น ซีนา ทำให้ จอห์น ซีนา เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ให้กับ เดอะ มิซ ไปในที่สุด
[แก้]ท่าไม้ตายและท่าอื่นๆ



จอห์น ซีนา เล่นงาน บาติสต้า ด้วยท่า STF (ชื่อเดิม STFU)
Attitude Adjustment (ชื่อเดิม F-U)
วิธีใช้ : จับคู่ต่อสู้ยกแล้วจับทุ่มเต็มๆ ทำให้คู่ต่อสู้เจ็บหลัง
STF (ชื่อเดิม STFU)
วิธีใช้ : จับคู่ต่อสู้งัดคอทำให้คู่ต่อสู้ตบพื้นยอมแพ้
Five Knuckle Shuffle
วิธีใช้ : จับคู่ต่อสู้นอนลงและทิ้งหมัดใส่คู่ต่อสู้บริเวณหน้าผาก
[แก้]เกี่ยวกับมวยปล้ำ



จอห์น ซีนา เล่นงาน เคิร์ต แองเกิล ด้วยท่า Attitude Adjustment (ชื่อเดิม F-U)
ท่าเอกลักษณ์
"ไดวิ่ง เลค ดรอป บูลล์ด็อก" (Diving leg drop bulldog) – (2005 – ปัจจุบัน)
"ดรอปคิก, ซัมทามส์ ฟรอม เดอะ ท็อป โรป" (Dropkick, sometimes from the top rope) – (2000 – 2002) , (2010 – ปัจจุบัน)
"ฟิชเชอร์แมน ซูเพล็ก" (Fisherman suplex)
"รันนิ่ง เลปิ้ง โชวล์เดอร์ บล็อก" (Running leaping shoulder block)
"รันนิ่ง วัน-แฮนเดด บูลล์ด็อก" (Running one–handed bulldog)
"ซิทเอาท์ ฮิป ทอสส์" (Sitout hip toss)
"สไปน์บัสเตอร์" (Spinebuster) – (2000 – 2005)
"ทวิสติง เบลลี่ ทู เบลลี่ ซูเพล็ก" (Twisting belly to belly suplex)
"เวอร์ติเคิล ซูเพล็ก" (Vertical suplex)
Thesz press followed by multiple punches
Throwback (Running neck snap to a bent–over opponent)
ผู้จัดการ
Kenny Bolin
B–2
Redd Dogg
ฉายา
"The Doctor of Thuganomics"
"The Champ" (as either the WWE Champion or the World Heavyweight Champion)
"The Chain Gang Commander"
"The Chain Gang Soldier"
"The CeNation Commander-in-Chief"
เพลงเปิดตัว
"The Beautiful People (Instrumental)" โดย Marilyn Manson (WWE) (2002)
"Slam Smack" โดย Jim Johnston (WWE) (2002)
"Insert Bass Here" โดย Jim Johnston (WWE) (2002)
"Freestyles Beat" โดย Jim Johnston (WWE) (2003)
"Basic Thuganomics" โดย John Cena (WWE) (2003 - 2005)
"The Time is Now" โดย John Cena and Tha Trademarc (WWE) (2005 - ปัจจุบัน)
[แก้]แชมป์สมาคม WWE



จอห์น ซีนา กับ แชมป์โลกเฮฟวี่เวท
WWE Champion (7 สมัย)
ชนะ JBL ในศึก WrestleMania ครั้งที่ 21
ชนะ Edge ในศึก Royal Rumble 2006
ชนะ Edge ในศึก Unforgiven 2006
ชนะ Randy Orton ในศึก Breaking Point 2009
ชนะ Randy Orton ในศึก Bragging Rights 2009
ชนะ Sheamus, Triple H, Randy Orton, Kofi Kingston & Ted DiBiase, Jr. ในศึก Elimination Chamber 2010
ชนะ Batista ในศึก WrestleMania ครั้งที่ 26
World Heavyweight Champion (2 สมัย)
ชนะ Chris Jericho ในศึก Survivor Series 2008
ชนะ Edge & Big Show ในศึก WrestleMania ครั้งที่ 25
United States Champion (3 สมัย)
ชนะ Big Show ในศึก WrestleMania ครั้งที่ 20
ชนะ Booker T ในศึก No Mercy 2004
ชนะ Carlito ในศึก SmackDown
World Tag Team Champion (2 สมัย)
คู่กับ Shawn Michaels ชนะ Edge & Randy Orton ในศึก Raw
คู่กับ Batista ชนะ Cody Rhodes & Ted DiBiase, Jr. ในศึก Raw
WWE Tag Team Champion (2 สมัย)
คู่กับ David Otunga ชนะ Cody Rhodes & Drew McIntyre ในศึก Bragging Rights 2010
คู่กับ The Miz ชนะ Justin Gabriel & Heath Slater ในศึก Raw
Royal Rumble Winner (2008)
ปี 2008 ชนะ Triple H เป็นคนสุดท้าย
[แก้]รางวัลและผลงาน

Pro Wrestling Illustrated
PWI Feud of the Year (2006) vs. Edge
PWI Match of the Year (2007) vs. Shawn Michaels on Raw on April 23
PWI Most Improved Wrestler of the Year (2003)
PWI Most Popular Wrestler of the Year (2004, 2005, 2007)
PWI Wrestler of the Year (2006, 2007)
PWI ranked #1 of the top 500 singles wrestlers in the PWI 500 in 2006 and 2007
Wrestling Observer Newsletter Awards
Wrestler of the Year (2007, 2010)
Best Box Office Draw (2007)
Best on Interviews (2007)
Most Charismatic (2006–2010)
Most Charismatic of the Decade (2000–2009)
Best Gimmick (2003)
Slammy Award
Superstar of the Year (2009, 2010)
Holy $#!+ Move of the Year (2010) Sends Batista through the stage with an Attitude Adjustment.
[แก้]แชมป์สมาคมอื่นๆ

Extreme Mexican Wrestling
EMW Heavyweight Championship (1 สมัย)
Ohio Valley Wrestling
OVW Heavyweight Championship (1 สมัย)
OVW Southern Tag Team Championship (1 สมัย) – คู่กับ Rico Constantino
Ultimate Pro Wrestling
UPW Heavyweight Championship (1 สมัย)
[แก้]เกร็ดความรู้

จอห์น ซีนา ได้ แชมป์โลกทั้งหมด 9 สมัย (แชมป์ WWE 7 สมัย และ แชมป์โลกเฮฟวี่เวท 2 สมัย)
จอห์น ซีนา ได้ แชมป์ยูเอส ครั้งแรกในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 20 โดยชนะ บิ๊กโชว์
จอห์น ซีนา ได้ แชมป์ WWE ครั้งแรกในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 21 โดยชนะ JBL
จอห์น ซีนา ได้ แชมป์โลก Heavyweight ครั้งแรกในศึก Survivor Series (2008) โดยชนะ คริส เจอริโก้
จอห์น ซีนา ได้ แชมป์โลกแทคทีม ครั้งแรกโดยจับคู่กับ ชอว์น ไมเคิลส์ เอาชนะ เอดจ์ และ แรนดี ออร์ตัน
จอห์น ซีนา สามารถยกนักมวยปล้ำที่ตัวใหญ่กว่าเขาได้ทุกคน เช่น เดอะ เกรท คาลี นักมวยปล้ำที่สูงที่สุดในยุคปัจจุบัน บิ๊กโชว์ นักมวยปล้ำที่ตัวใหญ่ที่สุดและน้ำหนักมากที่สุดในยุคปัจจุบัน เป็นต้น
จอห์น ซีนา ชนะเลิศ Royal Rumble ปี 2008
จอห์น ซีนา เคยชนะผู้ที่เคยก่อตั้งทีมเดียวกันในนาม ดิ-เจเรเนชั่น เอ็กซ์ ทั้ง ทริปเปิล เอช และ ชอว์น ไมเคิลส์ มาแล้ว ในศึก WrestleMania
เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 22 ชนะ ทริปเปิล เอช
เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 23 ชนะ ชอว์น ไมเคิลส์
จอห์น ซีนา ปล้ำศึก WrestleMania ครั้งแรกคือครั้งที่ 20 โดยปล้ำกับ บิ๊กโชว์ โดยมี แชมป์ยูเอส เป็นเดิมพัน และ ซีนาคือผู้ชนะและได้แชมป์ไปครอง
จอห์น ซีนา ปล้ำศึก WrestleMania มาแล้ว 8 ครั้ง โดย ซีนา ชนะ 6 แพ้ 2
เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 20 ชนะ Big Show
เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 21 ชนะ JBL
เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 22 ชนะ Triple H
เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 23 ชนะ Shawn Michaels
เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 24 แพ้ Randy Orton โดยมี Triple H ร่วมปล้ำด้วย
เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 25 ชนะ Edge และ Big Show
เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 26 ชนะ Batista
เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 27 แพ้ The Miz
จอห์น ซีนา เป็นนักมวยปล้ำคนแรกที่เอาชนะ อูมาก้า มาได้สำเร็จ
จอห์น ซีนา ปล้ำ I Quit Match มาแล้ว 3 ครั้ง และยังไม่เคยแพ้ใคร
ชนะ JBL ในศึก Judgment Day 2005
ชนะ Randy Orton ในศึก Breaking Point (2009)
ชนะ Batista ในศึก Over The Limit (2010)
จอห์น ซีนา ปล้ำ Elination Chamber มาแล้ว 4 ครั้ง โดยชนะ 3 แพ้ 1
ในศึก New Year's Revolution 2006 ชนะ Kurt Angle, Shawn Michaels, Kane, Chris Masters & Carlito
ในศึก No Way Out (2009) แพ้ Edge ร่วมด้วย Rey Mysterio, Kane, Mike Knox & Chris Jericho
ในศึก Elimination chamber (2010) ชนะ Sheamus, Triple H, Randy Orton, Kofi Kingston & Ted DiBiase, Jr.
ในศึก Elimination Chamber (2011) ชนะ Randy Orton, John Morrison, R-Truth, Sheamus & CM Punk
จอห์น ซีนา ใช้ท่าไม้ตาย STF (ชื่อเดิม STFU) ครั้งแรก เมื่อปี 2005 โดยผู้ที่โดนคนแรกคือ คริส มาสเตอร์
จอห์น ซีนา ปล้ำ Iron Man Match ครั้งแรก โดยชนะ แรนดี ออร์ตัน 6-5 ในศึก Bragging Rights 2009
จอห์น ซีนา เป็นนักมวยปล้ำที่เอาชนะ แรนดี ออร์ตัน ได้บ่อยมากที่สุด
จอห์น ซีนา จับคู่กับ ชอว์น ไมเคิลส์ และ บาติสต้า จนได้แชมป์ Tag Team โดยเป็นคู่กรณีกัน
จอห์น ซีนา เปิดตัว ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 23 ใช้งบประมาณสูงสุดในประวัติศาสตร์ถึง 100,000 ดอลลาร์
จอห์น ซีนา ดัดแปลงเข็มขัด แชมป์โลก WWE แบบหมุนได้ ทำให้เป็นสินค้าที่ขายดีที่สุดในรอบ 5 ปี
จอห์น ซีนา และ เรย์ มิสเตริโอ คือสองคนที่แฟนๆต้องการลายเซ็นมากที่สุด
จอห์น ซีนา แพ้ให้กับ เวด บาร์เร็ตต์ ในศึก Hell in a Cell (2010) ทำให้ จอห์น ซีนา ต้องกลายเป็นพวกกลุ่ม The Nexus ไปในที่สุด
จอห์น ซีนา ต้องเป็นกรรมการพิเศษคู่ชิงแชมป์ WWE ระหว่าง แรนดี ออร์ตัน กับ เวด บาร์เร็ตต์ ในศึก Survivor Series (2010) และเป็น แรนดี ออร์ตัน ที่เป็นฝ่ายชนะ ทำให้ จอห์น ซีนา ต้องออกจาก WWE ไปในที่สุด
จอห์น ซีนา ได้กลับมา WWE อีกครั้ง และในศึก TLC: Tables, Ladders & Chairs (2010) จอห์น ซีนา ก็เป็นฝ่ายสามารถเอาชนะ และ ล้างแค้น เวด บาร์เร็ตต์ มาได้สำเร็จ ในรูปแบบการปล้ำ Chairs Match
[แก้]ผลงานอื่นๆ

นอกจาก ซีนา จะมีผลงานในสังเวียนมวยปล้ำแล้ว ยังมีผลงานอื่นๆ ดังนี้
[แก้]ผลงานเพลง
ในปี 2004 ซีนา ได้ร้องเพลงในอัลบัม WWE Originals ของ WWE คือเพลง Basic Thuganomics
ในปี 2005 ในอัลบัมของเขาเองอย่าง You Can't See Me
[แก้]ภาพยนตร์
ปี ภาพยนตร์ รับบท หมายเหตุ
2006 The Marine John Triton Lead role
2009 12 Rounds Danny Fisher Lead role
2010 Psych Ewan O'Hara Guest appearance; episode: "You Can't Handle This Episode"
True Jackson, VP Himself Guest appearance; episode: "Pajama Party"
Legendary Mike Chetley
Hannah Montana Himself Guest appearance; episode: "Love That Let's Go"
Fred: The Movie Fred's Dad Television film
2011 Blood Brothers Sam Cleary
ขึ้นไปข้างบน Go down
Arm
The Legend
The Legend
Arm


จำนวนข้อความ : 245
Join date : 30/04/2011
Age : 28
ที่อยู่ : แฟลตทหารเรือ บางนา

ประวัติ John Cena Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: ประวัติ John Cena   ประวัติ John Cena Icon_minitimeTue May 31, 2011 7:21 pm

ประวัติยาวเหยียด
ขึ้นไปข้างบน Go down
 
ประวัติ John Cena
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1
 Similar topics
-
» ประวัติ CM Punk
» ประวัติ คริสเตียน
» ประวัติ มาก เฮนรี่
» ประวัติ เคน
» ประวัติ เอดจ์

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
Begin Experience Wrestling Official :: BEW Cafe' :: Rest Room-
ไปที่: